เรื่อง ภาษารัก
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว นานซะจนเกือบจะจำไม่ได้ มีเจ้าชายหนุ่มรูปหล่อโดนแม่มดใจร้ายสาปให้พูดไม่ได้ ในแต่ละปีเขามีสิทธิ์พูดได้แค่คำเดียว แต่ถ้าเขาไม่พูดสิทธิ์นี้ก็จะสะสมไว้ใช้ได้ในปีถัดไป
วันหนึ่งเจ้าชายก็พบกับเจ้าหญิงแสนสวยผมทองปากเต็มอิ่มสะโพกผายกลึง เจ้าชายตกหลุมรักเจ้าหญิงแบบหัวปักหัวปำ อยากได้เธอมาร่วมเรียงเคียงหมอน เจ้าชายตั้งใจว่าจะเอ่ยคำแรกกับเธอผู้เลอโฉมว่า “ที่รัก”
ดังนั้นเขาจึงต้องอดกลั้นไม่พูดจา ๒ ปีเต็ม เพื่อจะได้สิทธิ์พูด ๒ พยางค์อันทรงคุณค่านี้ อดทนมาจนครบ ๒ ปี เจ้าชายก็เปลี่ยนความคิดใหม่ว่า เรื่องอะไรจะพูดเพียงแค่คำว่า “ที่รัก” เขาน่าจะพูดว่า “ที่รัก ผมรักคุณ” มากกว่า ดังนั้นเจ้าชายจึงอดทนไม่พูดจาต่อไปอีก ๓ ปี จึงจะมีสิทธิ์พูด ๕ พยางค์นี้
พอได้ครบ ๕ ปี เจ้าชายผู้มุ่งมั่นก็เปลี่ยนใจใหม่อีกแล้ว เขาควรจะขอเจ้าหญิงแต่งงานเสียเลยจะดีกว่า ดังนั้นเขาต้องสะสมสิทธิ์การพูดต่ออีก ๑๐ ปี เจ้าชายไม่รู้จักภาษาใบ้ เขียนหนังสือไม่ออก อ่านหนังสือไม่ออก การคบหากับเจ้าหญิงจึงได้แค่เพียงมองหน้ากันไปมองหน้ากันมาจนครบ ๑๐ ปี
ในที่สุดก็ถึงเวลาอันสำคัญ เจ้าชายจูงมือเจ้าหญิงเข้าไปในราชอุทยานของพระองค์ ต้นไม้ที่ร่มรื่น ดอกไม้ที่แสนสวย นกร้องเบาๆคลอเคล้าด้วยสายลมอ่อนๆ เจ้าชายเก็บกุหลาบแดงช่อโตมามอบให้เจ้าหญิง คุกเข่าต่อหน้าและจับมือเธอขึ้นจุมพิต แล้วเอื้อนเอ่ยว่า
“ที่รัก ผมรักคุณ แต่งงานกับผมนะ” เจ้าชายเอ่ยปากขอแต่งงานกับเจ้าหญิงที่หลับตาสะเทิ้นอายด้วยเสียงหนุ่มหล่อแบบด็อกเตอร์สลัมพ์
เจ้าหญิงแสนสวยลืมตาจ้องเจ้าชาย สายตาอันหยาดเยิ้มทำให้หัวใจเจ้าชายพองโตแทบบ้า ริมฝีปากอวบอิ่มขยับพูด “อะไรนะ หญิงไม่ได้ยิน”
::บทแทรก::
จำเป็นหรือที่ “คำว่ารัก” จะต้องเอ่ยจากปากเท่านั้น แค่การกระทำที่แสดงออกจากใจจริง ก็เป็นการเอ่ย “คำว่ารัก” ออกมาจากหัวใจแล้ว
เครดิต: Forward Mail
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น