จองโรงแรมกับ Traveloka สบายใจกว่า

Translate

วันเสาร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2562

ความรักที่ไร้เงื่อนไข

 
 
เรื่อง ความรักที่ไร้เงื่อนไข

วานนี้มีธุระแถวอนุสาวรีย์ชัยฯ เป็นเหตุให้ได้พบเหตุการณ์ที่นำมาซึ่งความรู้สึกประทับใจ ระคนสะเทือนใจในเวลาเดียวกัน

ลงจากรถไฟตรงอนุสาวรีชัยฯ เดินจากสะพานลอยลงมาผ่านป้ายรถเมล์ พลันสายตาก็ไปสะดุดกับภาพที่เห็นจนทำให้ต้องหยุดยืนมองอย่างสนใจใคร่รู้ ทุกท่านคงเคยเห็นถังขยะทรงสูงขนาดใหญ่ที่มีฝาปิดของ กทม. 

ภาพที่เห็นคือถังขยะใบใหญ่แบบมีฝาปิดสีแดง ตัวถังที่ใช้ใส่ขยะเป็นสีเทา แสดงว่าเป็นถังใส่ขยะพิษจำพวกกระป๋องสเปรย์กระป๋องดีดีทีหลอดไฟนีออน แต่สิ่งที่อยู่บนฝาสีแดงของถังขยะนั้นสิน่าสนใจ มันคือหมาไทยสีขาวที่มีดวงตาใสซื่อนั่งอยู่บนถังขยะ (นั่งจริงๆไม่ใช่กึ่งนั่งกึ่งนอน) แน่นอนมันคงไม่ใช่หมาพิษที่ใครเอามาทิ้งแน่ เพราะมันมีป้ายกระดาษแขวนไว้ที่คอด้วย เราลองเดินไปดูใกล้ๆ ป้ายนั้นเขียนด้วยปากกาลูกลื่นเลือนรางและโย้เย้ว่า “หิวข้าว” สั้นๆ แต่เรียกความสงสารปนเอ็นดูให้คนผ่านไปผ่านมาที่พบเห็นได้มากโดยเฉพาะคนที่รักสัตว์ ที่ทำให้เรารู้สึกประทับใจก็คือ หมาตัวนี้คงนั่งอยู่บนถังขยะนี้มานานพอสมควร แต่มันกลับนั่งได้นิ่งอยู่บนฝาถังที่มีพื้นที่จำกัดได้อย่างน่าทึ่ง จะมีขยับตัวเพราะความเมื่อยบ้างเล็กน้อย โดยไม่มีทีท่าว่าจะกระโดดลงมา และคิดว่าหมาไทยตัวนี้คงไม่เคยผ่านโรงเรียนฝึกสุนัขมาแน่นอน มันนั่งอยู่ได้ไง ความรู้สึกต่อมาคือความรู้สึกสะท้อนใจ ข้างหน้าที่หมาตัวนั้นนั่งที่ยังพอเหลือพื้นที่เล็กน้อย มีถ้วย Big Gulp ของร้าน 7-Eleven ตั้งอยู่ เจ้าหมาตัวนี้คงไม่ได้เข้าไปซื้อมาจาก 7-Eleven เองเป็นแน่ มันเป็นถ้วยเปล่าที่มีเศษเงินอยู่ในนั้น ทำให้ถึงบางอ้อ

สักประเดี๋ยวมีผู้หญิงคนหนึ่งลักษณะบ่งบอกว่าเป็นแม่ค้าแถวนั้นเดินมาดูเงินในถ้วย แล้วพูดด้วยเสียงที่ “จงใจ” ให้ดังฟังชัดว่า “ไอ้เปี๊ยกแม่งหากินกับหมาเหรอวะ แน่ะได้พอซื้อเหล้าแบนนึงแล้วโว้ย” 
สิ้นเสียงแม่ค้า ชายวัยประมาณ ๔๐ ต้นๆแต่งตัวมอมแมม เจ้าของชื่อเปี๊ยกก็ปรากฏตัวด้วยท่าทางกล่ำสุรา “ทำไมวะ”

ชายขี้เมาเดินไปที่หมาไทยตัวดังกล่าว ดูเจ้าหมาออกอาการดีใจกระดิกหางแต่ยังไม่ยอมลุกยืน ตาของมันใสบริสุทธิ์ไร้ความคลางแคลงใจจริงๆ มันทำหูลู่ไปข้างหลังเมื่อชายขี้เมาเอามือตบหัวมันเบาๆ แต่พูดกับหมาด้วยเสียงอันดัง เสียงและคำพูดบอกถึงสติสัมปชัญญะที่เหลืออยู่น้อยนิดว่า “นั่งอยู่เฉยๆเลย ห้ามลุก นั่งอยู่ที่นี่ ใครเอาตังค์ใส่กระป๋อง (ถ้วย) ก็หวัดดีเค้าด้วยรู้มั้ย ไหนๆหวัดดียังไง (เจ้าหมายกขาหน้าข้างหนึ่งไปวางที่มือชายขี้เมา) เออนั่นแหละ เดี๋ยวข้ามา แล้วข้าจะเอาข้าวมาให้กิน นั่งเฉยๆ อย่าลงมานะโว้ย นั่งอยู่บนนั้นแหละ”

แล้วชายขี้เมาก็เทเอาเงินในถ้วยแล้วเดินจากไปด้วยคำบ่นอีกหลายคำ (ไม่ต้องสงสัยว่าเค้าจะไปไหน) ทิ้งให้หมาตัวนั้นนั่งอยู่ที่เดิม แต่สายตาที่จงรักภักดีของมันยังคงมองตามชายขี้เมาไป ความรักที่หมาตัวนี้มีให้ชายขี้เมาเป็นความรักที่ไร้เงือนไข มันยอมทำทุกอย่างที่ชายขี้เมาสั่ง ซึ่งชายขี้เมาอาจจะดูเป็นคนไร้ค่าในสายตาของใครๆในสังคม ถึงแม้คำสั่งนั้นอาจจะไร้เหตุผล ทำให้มันลำบากเหนื่อยหรือหิว แต่ก็มีมนุษย์เท่านั้นที่จะรู้ได้ว่า สิ่งที่ชายขี้เมาตอบสนองให้มันคือ ความรักที่เต็มไปด้วยเงื่อนไขและการตอบแทน 

จริงๆเรื่องนี้ก็เป็นเพียงเหตุการณ์เล็กๆที่เราอาจได้พบในชีวิตประจำวัน แต่มันกลับทิ้งความรู้สึกสะเทือนใจไว้ให้มากอย่างไม่น่าเชื่อ

เครดิต: Forward Mail

 
 


วันอาทิตย์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2562

คุณค่าที่ไม่เปลี่ยน

 
 
เรื่อง คุณค่าที่ไม่เปลี่ยน

นักพูดที่เป็นที่รู้จักกันดีท่านหนึ่งได้เริ่มหยุดการสัมมนาของเขา โดยการหยิบแบงค์ ๒๐ ดอลลาร์ขึ้นมา ในห้องที่มีผู้เข้าร่วม ๒๐๐ ท่าน แล้วเขาก็พูดว่า
“ใครอยากได้แบงค์ ๒๐ นี้บ้าง” 

มือได้ถูกยกขึ้นเป็นจำนวนมาก และเขาก็พูดต่อว่า 
“ฉันจะให้เงินแบงค์ ๒๐ นี้ แก่หนึ่งในพวกท่าน แต่ครั้งแรกนี้ฉันจะทำอย่างนี้”

เขาเริ่มที่จะขยำๆเงินนั้นแล้วเขาก็ถามอีกว่า 
“ใครจะยังต้องการมันอีก” 
ยังคงมีมือที่ยกขึ้นอีก 

“ดี” เขาตอบ 
“แล้วถ้าฉันทำอย่างนี้ล่ะ” 
และเขาก็ทิ้งมันลงที่พื้นและเริ่มเหยียบย่ำมันด้วยรองเท้าของเขา แล้วเขาก็เก็บขึ้นมา ขณะนี้มันทั้งยับยู่ยี่และสกปรก 
“ตอนนี้ใครยังต้องการมันอีก” ก็ยังคงมีคนยกมืออีก 

“เพื่อนๆ คุณได้เรียนรู้บทเรียนที่มีค่ามากที่สุดบทหนึ่งแล้วว่า ไม่ว่าฉันจะทำอะไรกับเงิน คุณก็ยังต้องการมันอยู่ เพราะว่ามันไม่ได้ลดคุณค่าในตัวมันลงเลย มันยังคงมีค่า ๒๐ ดอลลาร์อยู่นั่นเอง เหมือนกับหลายๆครั้งในชีวิตของเราที่ถูกทิ้งถูกเหยียบย่ำและถูกทำให้สกปรก โดยสิ่งที่เราตัดสินใจทำมัน และสภาพแวดล้อมที่เราเจอ ทำให้เรารู้สึกว่าคุณค่าของเราลดน้อยลง แต่ไม่ว่าอะไรที่ได้เกิดขึ้นหรืออะไรที่จะเกิดขึ้น คุณไม่เคยสูญเสียคุณค่าของคุณ คุณเป็นคนพิเศษ อย่าลืมมันตลอดไป”

“อย่านำความผิดหวังของเมื่อวาน มาบดบังความฝันในวันพรุ่งนี้”

เครดิต: Forward Mail

 
 


วันอาทิตย์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2562

กลอน ความลับกับความรัก

 
 
กลอน ความลับกับความรัก 

                                   ความลับได้ยินว่ามักเป็นสีดำ             
                                    ความรักจำได้ว่าเป็นสีชมพู
                                    ความลับต้องกระซิบข้างๆหู               
                                   ความรักอาจรับรู้ได้ด้วยหัวใจ 
                                    ความลับต้องมีการวางแผน               
                               ความรักจะกี่หมื่นแสนก็ยังยิ่งใหญ่
                               ความลับถ้าบอกจะไม่ลับอีกต่อไป       
                              ความรักได้ฟังเมื่อไหร่ก็ยังคงงดงาม
                                   ความลับฟังแล้วอาจสงสัย                
                                   ความรักมักไม่ต้องมีคำถาม
                              ความลับต้องเก็บให้ดีคือคำนิยาม       
                      ความรักอาจไม่ต้องให้คำจำกัดความมาปะปน
                                   ความลับจะไม่บอกให้ใครรู้                
                              ความรักอยากให้ได้ฟังอยู่ก็สุขล้น
                                  ความลับเข้าไปมากจะวกวน              
                           ความรักแค่อยู่ในใจใครสักคนก็เพียงพอ

                                 (ผู้ประพัน ชมพู พันธุ์ทิพย์)

 
 


วันอาทิตย์ที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2562

ข้อคิดจากไอน์สไตน์

 
 
เรื่อง ข้อคิดจากไอน์สไตน์

ในห้องเรียนวันหนึ่ง ไอน์สไตน์ถามนักเรียนว่า “มีคนซ่อมปล่องไฟสองคนกำลังซ่อมปล่องไฟเก่า พอพวกเขาออกมาจากปล่องไฟ ปรากฏว่าคนหนึ่งตัวสะอาด อีกคนตัวเลอะเทอะเต็มไปด้วยเขม่า ขอถามหน่อยว่า คนไหนจะไปอาบน้ำก่อน” 

นักเรียนคนหนึ่งตอบว่า “ก็ต้องคนที่ตัวสกปรกเลอะเขม่าควันสิครับ”
ไอน์สไตน์พูดว่า “งั้นเหรอ คุณลองคิดดูให้ดีนะ คนที่ตัวสะอาดเห็นคนที่ตัวสกปรกเต็มไปด้วยเขม่าควัน เขาก็ต้องคิดว่าตัวเองออกมาจากปล่องไฟเก่าเหมือนกัน ตัวเขาเองก็ต้องสกปรกเหมือนกันแน่ๆเลย ส่วนอีกคนเห็นฝ่ายตรงข้ามสะอาด ก็ต้องคิดว่าตัวเองก็สะอาดเหมือนกัน ตอนนี้ผมขอถามพวกคุณอีกครั้งว่า ใครที่จะไปอาบน้ำก่อนกันแน่”

นักเรียนคนหนึ่งพูดขึ้นมาด้วยความตื่นเต้นว่า “อ้อ! ผมรู้แล้ว พอคนตัวสะอาดเห็นอีกคนสกปรก ก็นึกว่าตัวเองต้องสกปรกแน่ แต่คนที่สกปรกเห็นอีกคนที่สะอาด ก็นึกว่าตัวเองไม่สกปรกเลย ดังนั้นคนที่ตัวสะอาดต้องวิ่งไปอาบน้ำก่อนแน่เลย ถูกไหมครับ”

ไอน์สไตน์มองไปที่นักเรียนทุกคน นักเรียนทุกคนต่างเห็นด้วยกับคำตอบนี้
ไอน์สไตน์ค่อยๆพูดขึ้นอย่างมีหลักการและเหตุผล “คำตอบนี้ก็ผิด ทั้งสองคนออกมาจากปล่องไฟเก่าเหมือนกัน จะเป็นไปได้ไงที่คนหนึ่งสะอาด อีกคนหนึ่งจะสกปรก นี่แหละที่เขาเรียกว่า ตรรกะ ” 

เมื่อความคิดของคนเราถูกชักนำจนสะดุด ก็จะไม่สามารถแยกแยะและหาเหตุผลแห่งเรื่องราวที่แท้จริงออกมาได้ นั่นคือ “ตรรกะ”

จะหาตรรกะได้ก็ต้อง
กระโดดออกมาจาก “พันธนาการของความเคยชิน” 
หลบเลี่ยงจาก “กับดักทางความคิด” 
หลีกหนีจาก “สิ่งที่ทำให้หลงทางจากความรู้จริง” 
ขจัด “ทิฐิแห่งกมลสันดาน”
จะหาตรรกะได้ก็ต่อเมื่อคุณต้องสลัดหมากทั้งหมดที่เขาจัดฉากวางล่อคุณไว้

เครดิต: Forward Mail

 
 


วันอาทิตย์ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2562

คุณค่าของคำว่าเพื่อน

 
 
เรื่อง คุณค่าของคำว่าเพื่อน

คุณค่าของคำว่าเพื่อนคือสิ่งที่ช่วยให้คุณมองเห็นคุณค่าของมิตรภาพ หากมีเพื่อนแท้แม้เพียงสักหนึ่งคน เท่ากับว่าคุณได้เติมเต็มชีวิตให้เต็มเปี่ยม ทำไมชีวิตที่มีเพื่อนช่างเป็นชีวิตที่แสนดี
คุณอาจถูกทิ้งอยู่ท่ามกลางทะเลทรายซาฮารา และลมอาจพัดเอาฝุ่นทรายเข้าตา แต่คุณยังคงจำลายมือของเพื่อนที่คุณรักที่สุดได้
คุณมีใครสักคนที่บ่นให้ฟังได้เสมอ 
คุณใส่เสื้อผ้าที่ดูแย่ที่สุดเมื่ออยู่กับเพื่อนได้
เมื่อคุณเล่าความลับให้เพื่อนฟัง เพื่อนจะเก็บไว้เป็นความลับ
เพื่อนจะไม่ถือสาหาความ แม้ว่าคุณจะโทรไปปลุกแต่เช้า 
เมื่อเพื่อนถามคุณว่า สบายดีเหรอเปล่า คุณไม่จำเป็นต้องตอบว่า “สบายดี” 
คุณสามารถตั้งคำถามโง่ๆกับเพื่อนได้ โดยที่เพื่อนไม่หัวเราะเยาะคุณ
เพื่อนอยู่ข้างคุณเสมอไม่ว่ากฎหมายจะว่าอย่างไร
เพื่อนจะนินทาคนอื่นในแบบที่คุณนินทาเสมอ
คุณสามารถยกเลิกอาหารมื้อค่ำได้โดยที่ไม่ถูกตัดพ้อต่อว่าจากเพื่อน
เสื้อผ้าของเพื่อนก็เหมือนเสื้อผ้าของคุณ ยืมใช้กันได้เสมอ
เพื่อนจะไม่บ่นเมื่อคุณกินอาหารในครัว แทนที่จะนั่งบนเก้าอี้ให้เรียบร้อย
มิตรภาพระหว่างเพื่อนแตกหักได้ยากกว่าชีวิตคู่
เพื่อนยอมรับคุณได้เสมอ ไม่ว่าคุณจะหนักเพิ่มขึ้นอีกเท่าใด เพื่อนจะยังคงรักคุณเหมือนเดิม
คุณไม่จำเป็นต้องนำอะไรติดไม้ติดมือไปด้วย เมื่อโผล่หน้าไปเยี่ยมเพื่อน
เพื่อนสามารถกลับมาคืนดีได้หลังจากทะเลาะกัน 
เพื่อนจะพูดความจริงเกี่ยวกับสีผมที่คุณเพิ่งไปทำ
เพื่อนจะคอยเลี้ยงลูกให้ยามที่คุณยุ่ง
เพื่อนจะให้คุณยืมเงินได้ง่ายกว่าการไปกู้ธนาคาร
คุณหยิบของในตู้ของเพื่อนมากินได้โดยไม่ต้องขออนุญาตก่อน
คุณสามารถโทรชวนเพื่อนออกมาดูหนังในคืนวันเสาร์ได้โดยไม่ต้องบอกล่วงหน้า
คุณสามารถนั่งเงียบๆไปตลอดทางโดยไม่ต้องหาเรื่องมาคุยกัน
เพื่อนคือใครสักคนที่คุณสามารถหลบออกจากที่ทำงานและไปนั่งกินกาแฟด้วยกันได้
เพื่อนจะไม่ต่อว่า ถ้าคุณเลิกนัดเพราะเจอคนที่ถูกใจ
เพื่อนจะไม่ทอดทิ้งคุณแม้ขณะติดคุก
แม้ว่าเพื่อนจะไม่พบกันนานนับสิบปี แต่ความรู้สึกของคุณกับเพื่อนก็ยังคงเหมือนเดิม

 เครดิต: Forward Mail

 
 


บทความที่ได้รับความนิยมในเดือนนี้