จองโรงแรมกับ Traveloka สบายใจกว่า

Translate

วันอาทิตย์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

นั่งรถหรือเดินดี

 
 

เรื่อง นั่งรถหรือเดินดี

You know? , love is just like someone waiting for a bus.
คุณรู้ไหม ความรักมันก็เหมือนกับการรอรถเมล์

When the bus comes, you look at it and you said to yourself.
เมื่อรถเมล์มา คุณมองไปที่มัน และเอ่ยกับตัวเองว่า

“Eee…… so full….. cannot sit down one”
“อี๋.....คนเพียบเลย ไม่มีที่นั่งด้วย”

So you said to yourself, “I’ll wait for the next one”
แล้วคุณก็พูดกับตัวเองว่า “ฉันรอคันต่อไปดีกว่า”

So you let the bus go and waited for the second bus.
แล้วคุณก็ปล่อยให้รถเมล์คันนั้นผ่านคุณไป แล้วรอรถเมล์คันที่ ๒

Then the second bus came, you looked at it and you said,
เมื่อรถคันที่ ๒ นั้นมา คุณมองไปที่รถเมล์นั้นแล้วเอ่ยว่า

“Eee…. this bus so old… surely very uncomfortable one”
“อี๋....รถเก๊าเก่า เก่าซะยิ่งกว่าเก่า มันต้องนั่งไม่สบายแน่เลย”

So you let the bus go and again, decided to wait for the next bus.
แล้วคุณก็ปล่อยให้รถเมล์คันนั้นผ่านไปอีกครั้ง และตัดสินใจที่จะรอรถเมล์คันต่อไป

After a while another bus came,
หลังจากนั้นรถเมล์อีกคันก็มาถึง

It’s not crowded, not old but you said,
คราวนี้มีคนไม่เยอะ และรถก็ไม่เก่าแต่คุณก็ยังบอกอีกว่า

“Eee…. no air-con one…. and the weather is so warm, better wait for the next one”
“อี๋.....แอร์ก็ไม่มี ตอนนี้อากาศร้อนจะตาย รอรถคันใหม่ดีกว่า”

So again you let the bus go and decided to wait for the next bus.
อีกครั้งหนึ่งที่คุณปล่อยให้รถเมล์ผ่านคุณไป และตัดสินใจที่จะรอรถอีกคัน

Then the sky started to get dark as it is getting late.
ท้องฟ้าชักเริ่มครึ้มๆ และมันก็เริ่มสายแล้ว

You panicked and jump on to the next on coming bus.
คุณชักเริ่มกระวนกระวายในการรอรถเมล์คันต่อไปที่กำลังมา

It is not until much later that you found out that you had boarded on to the wrong bus.
มันก็ไม่เป็นอย่างที่คุณหวัง จนกระทั้งในภายหลังคุณได้ค้นพบว่าคุณได้ขึ้นรถเมล์ผิดคัน

So you wasted your time and money waiting for what you want.
คล้ายๆกับคุณยอมที่จะเสียเงินและเวลา เพื่อที่จะให้ได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ

Even if a bus came, can you ensure that the air-con bus won’t break down or whether will the air-con be too cold for you?
ถึงแม้ว่ารถเมล์จะมา คุณจะแน่ใจได้อย่างไรว่ารถเมล์ติดแอร์คันนั้นแอร์จะไม่พัง หรือแอร์จะไม่เย็นจนเกินไปสำหรับคุณ

So, People wanting to get what they want are not wrong.
ผู้คนต้องการที่จะได้อย่างที่เขาต้องการมันไม่ผิดหรอก

But it wouldn’t hurt to give other people a chance right?
แต่คุณจะไม่ปวดร้าวบ้างเหรอ ที่คุณหยิบยื่นโอกาสที่ตัวเองควรจะได้ ให้คนอื่นไป

If you found that the “bus” doesn’t suit you,
ถ้าหากว่าคุณเจอรถเมล์คันนั้น คันที่ไม่เหมาะกับคุณ

Just press the red button and get off the bus.
ก็เพียงแค่กดปุ่มสีแดง(ปุ่มจอด) แล้วลงจากรถเมล์เท่านั้นก็จบ

But wait…., I’m sure you have this experience before.
แต่เดี๋ยวก่อน ผมแน่ใจเลยว่าคุณต้องเคยมีประสบการณ์อย่างนี้มาก่อน

You saw a bus coming (The bus you want of course)
คุณเห็นรถเมล์กำลังวิ่งมา (แน่นอนว่ามันเป็นรถเมล์คันที่คุณต้องการ)

You flagged it but the driver act blur by pretending not seeing you and zoomed pass you!
คุณโบกมือเรียกให้รถหยุด แต่คนขับดันเบลอโดยทำแกล้งทำเป็นไม่เห็นคุณ และก็มองผ่านคุณไปเฉยเลย

Well, and when the bus zoomed pass, what you may have to do is WALK!!!!
เอาละ และเมื่อรถเมล์ที่คุณต้องการผ่านไปแล้ว สิ่งที่คุณอาจจะต้องทำก็คือเดิน

The bottom line is being loved is like waiting for a bus whether you want to get on the bus and give the bus a chance depends totally on you.
ในท้ายที่สุดในเรื่องของความรักนี้มันก็คล้ายๆกับคุณกำลังรอรถเมล์สักคันที่คุณต้องการจะขึ้น และให้โอกาสรถเมล์นั้นสักครั้ง ทีนี้ก็สุดแล้วแต่คุณเลย

And walking is like being out of love.
และการเดินนั่นแหละที่เหมือนกับว่าคุณกำลังปล่อยให้ความรักหลุดลอยไป

You never lose by loving.
คุณจะไม่มีวันสูญเสียอะไรเลยเมื่อคุณได้รัก

You always lose by holding back.
คุณจะสูญเสียเสมอเมื่อคุณไม่เปิดใจ

อย่าปล่อยให้คนที่เข้ามาหลงชอบคุณ แต่เป็นคนที่คุณไม่สนใจ ไม่ใช่คนที่คุณต้องการ อาจจะไม่สวยหล่อไม่ใช่สเปคคุณ แล้วปล่อยให้เขาผ่านไปหรือจากคุณไป เมื่อเขาออกไปจากชีวิตคุณ คุณอาจจะเพิ่งเริ่มรู้สึกก็ได้ว่า เขามีความสำคัญต่อคุณแค่ไหน และในตอนนั้น คุณอาจจะไม่มีโอกาสที่จะดึงเขากลับมาอีกแล้ว


เครดิต: Forward Mail  


 
 


วันพฤหัสบดีที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

ก้อนหินวิเศษ

 
 
เรื่อง ก้อนหินวิเศษ

นานมาแล้วได้ยินมาว่ามีหินวิเศษอยู่ชนิดหนึ่ง ถ้าผู้ใดที่ได้ครอบครองจะสามารถนำไปแตะกับสิ่งของอะไรก็ได้สิ่งนั้นจะกลายเป็นทองคำ ทำให้ชายผู้หนึ่งเกิดความสนใจอยากจะเปลี่ยนแปลงชีวิตให้เป็นคนร่ำรวยขึ้นมา จึงตามหาหินก้อนนั้นเป็นการใหญ่ เมื่อตามหาจนถึงชายหาดแห่งหนึ่งซึ่งเต็มไปด้วยก้อนหิน เขาตัดสินใจเก็บหินขึ้นมาดูทีละก้อน ถ้าก้อนไหนไม่ใช่ก็จะขว้างมันลงทะเลไป เขาใช้ความพยายามอยู่นาน จากวันเป็นเดือนจากเดือนเป็นปี ก้อนแล้วก้อนเล่าก็ยังไม่ใช่สิ่งที่เขาค้นหาอยู่ดี

และในที่สุดความพยายามของเขาก็ประสบความสำเร็จจนได้ เขาได้พบกับหินวิเศษจริงๆ แต่ไม่ทันที่เขาจะได้คิดอะไร เขาก็ขว้างมันลงทะเลไปเหมือนหินก้อนที่ผ่านๆมา เขาตกใจมากถึงกับรำพันออกมาว่า “ต้องเริ่มต้นใหม่อีกแล้วหรือเนี่ย” ในชายหาดนั้นจะมีหินวิเศษชนิดนี้สักกี่ก้อนกันเชียว เหตุผลที่ทำให้ชายคนนี้ละทิ้งสิ่งที่เขาค้นหามานานก็คือ “ความเคยชิน” นั่นเอง บ่อยครั้งที่เราพยายามค้นหาสิ่งที่ต้องการมาตลอดชีวิต จนกระทั้งวันหนึ่งที่เรามี “โอกาส” พบมันแล้ว แต่ด้วย “ความเคยชิน” ในชีวิตประจำวัน เราก็มองข้าม “โอกาส” นั้นไป “โอกาส” ที่อาจจะไม่ปรากฏบ่อยนัก เราจึงต้องเริ่มต้นใหม่อยู่ร่ำไป

อย่าคิดแต่จะเริ่มต้นใหม่ เพราะสิ่งที่มีอยู่คือ “โอกาส” สิ่งใหม่คือ “ความหวัง” ทิ้งเก่าไปหาใหม่ก็เท่ากับทิ้งโอกาสที่มีอยู่แล้ว ไปรอความหวังที่ยังมาไม่ถึง


เครดิต: Forward Mail  

 
 


วันศุกร์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

ความรักกับรองเท้า

 
 
เรื่อง ความรักกับรองเท้า
 
นิยามความรักของคุณคืออะไร ส่วนของเรา ความรักก็เหมือนกับรองเท้า

รองเท้าแตะส่วนมากขายตามร้านทั่วไป ดังนั้นเวลาเราไปเห็นก็ไม่เคยจะนึกสนใจ มีคนเสนอขายให้ราคาถูกๆก็ไม่เคยคิดจะซื้อ แต่พอจำเป็นเข้าจริงๆก็ต้องไปซื้อมาแก้ขัดก่อนอยู่ดี

รองเท้าบางคู่ใส่ใหม่ๆอาจรู้สึกสบาย แต่ถ้าใส่นานๆเข้าอาจจะรู้สึกว่ารองเท้าคู่นี้ไม่เหมาะกับเรา อยากจะถอดทิ้งซะเหลือเกิน รองเท้าบางคู่ลองใส่ที่ร้านแล้วรู้สึกแปลกๆ อาจมีบ้างที่คับไปหรือหลวมไป แต่ใครจะรู้ว่า บางทีพอใส่ไปซักพัก หนังอาจจะขยายพอดีกับเท้าของเรา จนรู้สึกว่าดีเหลือเกินที่ตอนนั้นตัดสินใจเลือกคู่นี้

รองเท้าบางคู่ดูภายนอกอาจตลก แต่รู้ไหมว่าบางทีเมื่อมันมาอยู่คู่กับเท้าของเรา อาจจะทำให้ทั้งเท้าของเราและรองเท้าดูดีผิดหูผิดตาไป ส่วนรองเท้าคู่ไหนที่เห็นคนอื่นใส่แล้วดูดี ก็ไม่แน่เสมอไปว่ามาอยู่กับเราแล้วจะดีเหมือนอยู่กับคนอื่น

เคยเจอไหม ใครที่มีรองเท้ามากมายเกินความจำเป็น เขาเหล่านั้นก็คงจะไม่รู้ว่าคู่ไหนเป็นคู่โปรด ตราบเมื่อเขาได้เสียรองเท้าคู่นั้นไป ซึ่งมันอาจจะสายเสียแล้วที่จะทวงคืน

แล้วรองเท้าตามโรงแรมล่ะ รองเท้าสาธารณะเหล่านั้นที่ได้ผ่านเท้าของผู้คนมามากมาย บางคู่อาจยังใหม่ บางคู่อาจดูโทรม ส่วนบางคู่อาจจะนำพาโรคมาสู่ผู้ใส่ แต่รองเท้าสาธารณะเหล่านี้มีความเหมือนกันอยู่อย่างหนึ่งคือ ยากมากที่จะมีคนมาขอซื้อเป็นเจ้าของ หรือแทบจะไม่มีเลย นอกเสียจากซื้อไว้ดูเล่น หรือซื้อเอาไว้ใช้แก้ขัดชั่วครั้งชั่วคราว ซึ่งก็อาจไม่มีทางได้สัมผัสกับความรักระหว่างเจ้าของกับรองเท้า เฮ้อ น่าส่งสารจัง

รองเท้าที่เหมาะกับเราหาไม่ยากและไม่ง่าย แต่ถ้าเดินไปแล้วเจอคู่ที่ถูกใจ อยากบอกว่าให้รีบตัดสินใจซื้อก่อนที่จะถูกคนอื่นมาชิงตัดหน้าไปก่อน ซึ่งรองเท้าคู่นั้น อาจจะเป็นคู่เดียวในโลกที่เหมาะกับเรามากที่สุดก็ได้ ส่วนรองเท้าบางคู่ที่ไม่เหมาะกับเรา ใส่แล้วไม่รู้สึกสบาย ขอแนะนำว่าอย่าพยายามใส่ต่อไปอีกเลย มีแต่จะทำให้เราทรมาน เพราะในที่สุดเราก็ต้องโยนทิ้งไปอยู่ดี

รองเท้าสมัยใหม่ดูแล้วกิ๊บเก๋ แต่รองเท้าสมัยเก่าใส่แล้วก็ดูดีไปอีกแบบ จะสมัยไหนก็ช่างเถอะ ขอให้ใส่แล้วสบายที่สุด และเมื่อเจอแล้วจงใส่มันอย่างทะนุถนอม จะได้อยู่กับเราไปนานเท่านาน

แต่ที่แน่ๆคุณจะไม่มีวันได้รู้หรอกว่ารองเท้าคู่ไหนเหมาะกับคุณที่สุด จนเมื่อคุณได้ลองใส่มันเท่านั้น

วันนี้คุณได้เจอรองเท้าที่คิดว่าเหมาะกับคุณที่สุดหรือยัง พยายามเสาะหาต่อไปนะ เราเชื่อว่าสักวันคุณจะได้เจอรองเท้าที่ดีที่สุดสำหรับคุณอย่างแน่นอน อย่าเลยนะ อย่าพยายามเดินเท้าเปล่าเลย เพราะถนนมีสิ่งที่เป็นอันตรายต่อเท้าของคุณมากมาย หารองเท้าสักคู่มาใส่ป้องกันก่อนดีกว่า แม้ว่าคู่นั้นอาจจะยังไม่ใช่คู่ที่ดีที่สุดสำหรับคุณก็ตาม


เครดิต: Forward Mail


 
 


บทความที่ได้รับความนิยมในเดือนนี้