เรื่อง ๗ วิธีคิดอย่างคนเก่ง
๑. คิดในทางบวกมองโลกในแง่ดี
และทำทุกสิ่งอย่างเต็มกำลังด้วยรอยยิ้มและความเบิกบาน ทำตัวให้สดชื่นมีชีวิตชีวาและกระตือรือร้นอยู่เสมอ พร้อมที่จะเผชิญกับทุกสถานการณ์ จะช่วยให้คุณสามารถที่จะจัดการกับทุกเรื่องที่ผ่านเข้ามาได้อย่างอยู่มือ
๒. มีศรัทธาในตัวเอง
ถ้าแม้แต่ตัวคุณเองยังไม่ศรัทธาและเชื่อมั่นในตัวเอง แล้วจะมีมนุษย์หน้าไหนละจะเชื่อในความเก่งของคุณ อยากให้ใครๆเขาชื่นชอบและทึ่งในตัวคุณ คุณก็ต้องมั่นใจในตัวเอง
๓. ขอท้าความฝัน
ไม่มีอะไรที่จะทรงพลังมากเท่ากับความตั้งใจจริงและทุ่มสุดตัวหรอกนะ ความกระหายอันแรงกล้าที่จะพาตัวเองไปสู่จุดหมายนั่นแหละ เป็นแรงผลักดันที่จะทำให้คุณสานฝันสู่ความจริงได้
๔. ค้นหาบุคคลต้นแบบ
ใครก็ได้ที่คุณชื่นชม เพื่อเป็นมาตรฐานที่ดีในการดำเนินรอยตาม ศึกษาแนวคิดวิธีการทำงานจุดเด่นในตัวเขา เผื่อว่าเราจะได้ไอเดียแจ๋วๆมาปรับใช้ให้ชีวิตก้าวโลดสู่ความสำเร็จกับเขาบ้าง
๕. เริ่มต้นงานใหม่ทุกวันด้วยรอยยิ้มสดใส
คนที่มีรอยยิ้มระบายไว้บนใบหน้า เสมือนประตูที่เปิดกว้างให้ใครๆอยากเข้ามาคบหาด้วย การเจรจาติดต่องานก็มักจะลงเอยด้วยความสำเร็จมากกว่าคนที่หน้าตาแบกโลกนะ นอกจากนี้รอยยิ้มและเสียงหัวเราะยังสร้างความเบิกบานและคลายทุกข์ แถมยังเป็นยาอายุวัฒนะชั้นอ๋องที่ทำให้เราดูเป็นวัยสะรุ่นตลอดกาล รู้อย่างนี้แล้วหัดติดรอยยิ้มไว้ที่มุมปากกันเป็นประจำ
๖. เรียนรู้จากความผิดพลาด
ก็สี่เท้ายังรู้พลาดนักปราชญ์ยังรู้พลั้ง จะเป็นอะไรเชียวถ้าเราจะทำอะไรแล้วยังไม่สำเร็จอย่างที่หวังไว้ เพียงแต่ขอให้ทำเต็มที่และเปิดใจให้กว้างยอมรับความจริง หันมาทบทวนดูว่ามีขั้นตอนไหนที่ผิดพลาดไปเพื่อที่จะเริ่มต้นใหม่ให้ดีกว่าเดิม
๗. ทะนุถนอมมิตรสัมพันธ์เก่าๆ
คงไม่มีใครที่จะอยู่อย่างมีความสุขโดยปราศจากเพื่อนหรือมิตรที่รู้ใจหรอกนะ แม้ว่าในชีวิตแต่ละวันของคุณจะวุ่นวายแค่ไหนก็ตาม คุณควรจะมีเวลาให้กับเพื่อนซี้ที่รู้จักมักจี๋กันมานานซะบ้าง แวะไปหากันเมื่อโอกาสอำนวย ชวนกันออกมาทานข้าวในช่วงวันหยุด ส่งการ์ดปีใหม่หรือร่อนการ์ดวันเกิดไปให้ เผื่อในยามที่คุณเปล่าเปลี่ยวหงอยเหงาเศร้าทุกข์ใจ ก็ยังมีเพื่อนแสนซี้ไว้พึ่งพาและให้กำลังใจกันได้นะ
เครดิต: Forward Mail