จองโรงแรมกับ Traveloka สบายใจกว่า

Translate

วันเสาร์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2562

ของขวัญอันล้ำค่า

 
 
เรื่อง ของขวัญอันล้ำค่า

แต่ก่อนนานมาแล้ว ยังมีชายชราคนหนึ่งแก่มากจนจำอายุตนเองไม่ได้ หากแต่ใบหน้าของเขายังอิ่มเอิบเปล่งประกายเลือดฝาด เคราสีเงินยวงสะอาดตาของเขายาวปกคลุมมาถึงหน้าอก ร่างกายของเขาแข็งแรงมาก ตายังไม่ฝ้าฟาง หูก็ยังไม่หนวก เขามีลูกหลานเต็มบ้านเต็มเมือง แต่เขาก็ยังเป็นคนจัดการทุกสิ่งทุกอย่างภายในครอบครัว

ปีนี้เขาตัดสินใจว่าจะเลือกใครคนหนึ่งจากลูกชาย ๑๕ คนของเขามาสืบทอดภารกิจนี้เสียที แต่ว่าจะเลือกใครดีล่ะ เมื่อชายชราคิดวิธีที่ดีที่สุดได้ เขาจึงสั่งให้ลูกชายทั้ง ๑๕ คนมาพบ แล้วแจกเมล็ดดอกไม้ให้ลูกๆคนละ ๑ เมล็ด พร้อมทั้งบอกว่า ใครสามารถปลูกเมล็ดพืชนี้ให้งอกงามจนออกดอกบานสะพรั่ง คนนั้นก็จะได้เป็นผู้สืบทอดมรดกต่อไป 

เมื่อลูกๆได้เมล็ดพืชมาแล้วต่างนำไปปลูกและดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี ลูกชายคนเล็กของชายชราผู้นี้มีชื่อว่า เสี่ยวเหลียงจือ เมื่อได้เมล็ดดอกไม้แล้วเขาก็นำไปปลูกในกระถาง รดน้ำเอาใจใส่อย่างดีทุกวันทุกคืน แต่เมล็ดพืชนั้นก็ไม่แตกกล้าสักที เสี่ยวเหลียงจือรู้สึกเศร้าโศกเสียใจมาก 

เวลาผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว ฤดูร้อนย่างกรายมาถึงแล้ว ชายชราผู้เป็นพ่อกำหนดว่า วันนี้จะเป็นวันคัดเลือกดอกไม้ของลูกๆ ลูกทุกคนต่างอุ้มกระถางดอกไม้ที่ออกดอกบานสะพรั่งอย่างสวยสดงดงามมาให้ผู้เป็นพ่อชมเพื่อรอการคัดเลือก ชายชราเดินตรวจดอกไม้ที่สวยงามในมือของลูกๆด้วยสีหน้าที่ไม่มีแววยินดีแม้แต่น้อย เขาเดินตรวจจากบุตรชายคนโตมาจนถึงบุตรชายคนที่ ๑๔ โดยมิได้หยุดเลย เมื่อเดินมาถึงเสี่ยวเหลียงจือ บุตรชายคนสุดท้อง ซึ่งยืนถือกระถางเปล่า ไม่มีทั้งต้นไม้และดอกไม้ ชายชราจึงหยุดกึกตรงนั้น เสี่ยวเหลียงจือน้ำตาไหลพราก กล่าวกับบิดาอย่างสำนึกผิดว่า

“พ่อครับ ผมไม่มีดอกไม้จะมอบให้พ่อ” 
ชายชรากลับยิ้มแย้ม และพูดอย่างยินดีปรีดาว่า
“ลูกเอ๋ย สิ่งที่เจ้ามอบให้พ่อนั้น มีค่ายิ่งกว่าดอกไม้มากมายนัก”
“อะไรหรือครับ”
“ความซื่อสัตย์ไงล่ะ”

เรื่องราวเป็นอย่างไรกันแน่ ชายชราจึงเปิดเผยความลับต่อลูกๆว่า ที่แท้เมล็ดพืชที่ตนแจกแก่ลูกๆนั้น เป็นเมล็ดพืชที่นำไปคั่วจนสุก ดังนั้นต้นไม้ที่ผลิดอกสวยงามเหล่านั้น ล้วนมาจากเมล็ดพืชจากที่อื่น ไม่ใช่เมล็ดพืชผู้ที่เป็นพ่อแจกให้ ดอกไม้พวกนี้จึงเป็นสักขีพยานยืนยันความไม่ซื่อตรงของพวกเขา สุดท้ายชายชราจึงกล่าวอบรมลูกๆว่า 
“ขอให้ลูกๆจงเป็นคนซื่อสัตย์เถิด ความซื่อสัตย์เป็นสมบัติอันล้ำค่าของคนเรา” 

ชายชราผู้มองการณ์ไกล มิได้มองหาลูกชายที่แข็งแรงร่ำรวยหรือเฉลียวฉลาดเลย หากแต่มองหาลูกชายที่ซื่อสัตย์จริงใจ แม้เสี่ยวเหลียงจือจะมีเพียงกระถางว่างเปล่า แต่ใจของเขางดงามซะยิ่งกว่าดอกไม้ใดๆ เพราะเป็นใจที่เต็มเปี่ยมด้วยความซื่อสัตย์ ซึ่งเป็นคุณสมบัติอันหาได้ยากยิ่งในโลกที่เต็มไปด้วยการแก่งแย่งแข่งขันนี้ เขาจึงเป็นผู้ที่ได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจ และได้รับมอบหมายสิ่งสำคัญจากผู้เป็นบิดา 

นี่ย่อมแสดงให้เห็นว่า ความซื่อสัตย์และจริงใจเป็นสิ่งที่ทุกคนคาดหวังอยากได้จากกันและกันมากที่สุดในชีวิตของเรา เมื่อเราปรารถนาความซื่อสัตย์จริงใจจากทุกคน เราก็ควรเริ่มจากตัวของเราก่อน มอบความซื่อสัตย์จริงใจให้แก่กัน เพราะนี่คือสมบัติอันล้ำค่าที่เราทุกคนต่างปรารถนา และสามารถมอบให้แก่กันและกันได้ ให้โลกนี้งดงามด้วยความความซื่อสัตย์และจริงใจ งามยิ่งกว่าดอกไม้ใดๆทั้งมวล

เครดิต: Forward Mail

 
 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยมในเดือนนี้