จองโรงแรมกับ Traveloka สบายใจกว่า

Translate

วันศุกร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

ชอบ...รัก...หลง

 
 

เรื่อง ชอบ...รัก...หลง 

ชอบ รัก หลง แตกต่างกันอย่างไร
อาการเหล่านี้อาจจะใกล้เคียงกันมาก แต่ก็สามารถพอจะแยกออกได้เป็นส่วนๆดังนี้

๑. คำว่า “ชอบ”
คำนี้ควรเอาไว้หน้าเครื่องหมายของความรัก เพราะจะทำให้ความรักปลอดความขัดแย้ง มักจะมีความสุขและสมหวัง

๑.๑ ‘ชอบ’ คือ รสนิยมตรงกัน นิสัยไปด้วยกันได้ เข้าใจกัน คุยถูกคอ เรียกว่าชอบพอกัน เช่นการคบเพื่อนเราก็ใช้ความรู้สึกนี้ เราจึงชอบเพื่อนรักเพื่อน มีความสุขพอใจเมื่อได้อยู่กับเพื่อน แม้จะคบกันมาตั้งแต่วัยเรียน จนถึงทำงาน จนถึงแก่ เพื่อนก็ไม่เคยหมดความหมาย เพราะมาจากรากฐานของคำว่า ‘ชอบ’

๑.๒ ถ้าคำว่า ‘ชอบ’ นำมาใช้กับคนที่รักของเรา ก็จะเพิ่มดีกรีกว่าคำว่าเพื่อนไปอีก เหตุนี้ควรพิสูจน์นิสัยใจคอ จนสามารถชอบเขาได้ แล้วค่อยกลายเป็นความรัก จึงจะถูกต้องอย่างที่ว่า “จะรักใครควรจะชอบเขามาก่อน แล้วความรักจะยั่งยืน”

๑.๓ แต่ส่วนใหญ่ยังไม่ทันชอบเลย ไม่รู้เสียด้วยว่าลูกใคร ครอบครัวเขาเป็นอย่างไร รู้แต่ชื่อเล่น ชื่อจริง ส่วนนามสกุลเอาไว้บอกทีหลัง เราก็รักกันไว้ก่อน ชีวิตครอบครัวจึงไม่ประสบความสำเร็จ ล้มเหลว วันหนึ่งๆแต่งงานเป็น ๑๐๐ คู่ แต่ก็หย่ากันวันละ ๒๐๐ คู่ ขาดทุน๑๐๐% ขาดทุน ๑๐๐% เพราะเรียงลำดับผิด

๑.๔ เพราะถ้าเอา ‘ความรัก’ ขึ้นหน้าไว้อันดับหนึ่งก่อน ‘ชอบ’ มักจะมองข้ามความบกพร่อง ความไม่ดีทุกอย่างของคนที่เรารักไป อย่างที่ผู้ใหญ่บอกว่า “ความรัก ทำให้คนตาบอด” พ่อแม่ห้ามก็ไม่ฟัง

๑.๕ แต่ถ้าเอา ‘ชอบ’ ไว้ก่อนยังไม่ ‘รัก’ ถ้าคนรักเกิดพลิกล็อค กลายเป็นคนไม่ดี เพราะไม่มีอะไรจะซ่อนเร้นมิดชิดและปกปิดได้นานเท่ากับหัวใจคน เรารู้ก่อนที่จะรัก เราก็ตัดสินใจได้ไม่ยาก ชอบมาก่อนจึงเกิดผลดี๒ประการ
(๑) ตัดใจได้ง่าย (๒) ได้คนดี




๒. คำว่า “รัก”
มีความหมายลึกซึ้งมากกว่าที่คุณคิด คนส่วนใหญ่จึงไม่รู้ความหมายคำว่ารักอย่างแท้จริง เพราะไม่คิดถึง ทั้งๆที่ตัวเองก็กำลังประพฤติอยู่

๒.๑ ‘รัก’ มีความหมายถึงการอยากให้ ให้คนที่ตนรักมีความสุข แล้วตัวเองก็ต้องมีความสุขด้วย ทั้งที่ความสุขนั้น อาจจะไม่ใช่หมายถึงความสมหวังเสมอไป “ในความรักไม่มีความกลัว เพราะความกลัวจัดเข้ากับการลงโทษ” แต่การเสียเขาไปต้องมีเหตุผลที่สมควรจากสองฝ่ายด้วย ไม่ใช่เราคิดไปเองว่า เขาคงจะได้ดี แล้วก็ทิ้งเขาไป (เห็นได้จากในภาพยนตร์บ่อยๆ) ซึ่งทำให้เราต้องสูญเสียโอกาสทั้งสองฝ่าย กลายเป็นจบลงด้วยความเศร้าแทน

๒.๒ ‘รัก’ “ถ้าเราจะรักใครซักคน เราต้องคิดอยู่เสมอว่า เราจะให้อะไรกับเขา ไม่ใช่จะได้อะไรจากเขา” ความรักนั้นต้องอดทนนาน และกระทำให้คุณนั้นรักแบบไม่อิจฉา ไม่อวดตัว ไม่หยิ่งผยอง ไม่หยาบคาย ไม่เห็นแก่ตนเองฝ่ายเดียว ไม่ฉุนเฉียว ไม่ช่างจดจำความผิด ไม่ชื่นชมยินดีเมื่อมีการประพฤติผิด แต่ชื่นชมยินดีเมื่อมีการประพฤติชอบ ความรักทนได้ทุกอย่างแม้ความผิดของคนอื่น และเชื่อในส่วนดีของเขาเสมอ และมีความหวังอยู่เสมอ และทนต่อทุกอย่าง

๒.๓ ในความ ‘รัก’ ไม่มีความ ‘กลัว’ เพราะถ้ามัวแต่กลัวจะเหมือนกับการโดนลงโทษ แล้วอาจจะโดน ม.ค.ป.ด. (หมาคาบไปแดก)




๓. คำว่า “หลง”
‘หลง’ กับ ‘รัก’ มักจะแยกกันยากมาก เพราะอาการคล้ายๆกัน ทีแรกก็ปลูกต้นรัก แต่พอต้นรักเติบใหญ่ ทำไมออกดอกเป็นความหลง ความหลงจะสำแดงแตกต่างจากความรัก สังเกตได้ ๓ ประการ

๓.๑ ‘เห็นแก่ตัว’ กอบโกยความสุขจากคนรักให้มากที่สุด เช่น ขอพบอยู่ใกล้ให้คนรักปรนนิบัติเอาใจ เรียกร้องความสนใจตลอดเวลา เอาแต่ความสุขความพอใจของตนเองเป็นใหญ่ คนรักจะทุกข์ยากอย่างไรไม่สน ตัวเองจะยอมทุ่มเททุกอย่างเช่น ทรัพย์สินเงินทองปรนเปรอ ถ้าไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็จะเอาด้วยกล ไม่ได้ด้วยมนต์ก็จะเอาด้วยคาถา พวกหมอดู คนเจ้าเข้าทรง หมอผี ร่ำรวยก็เพราะคนพวกนี้ ดูผิวเผินเหมือนความรักสุดใจ แต่ที่จริงไม่ใช่ เพราะความรักเป็นความสุภาพ เสียสละ อ่อนโยน มีเหตุผล

๓.๒ ‘ความหลง’ จะสังเกตได้ จะ ‘ไม่มีลดน้อย’ มีแต่จะ ‘ร้อนแรงขึ้นเป็นลำดับ’ เหมือนถูกผีกระทำ จะไม่มีเหตุผล เกรี้ยวกราด รุนแรง เอาแต่ใจ เรื่องเล็กก็กลายเป็นเรื่องใหญ่

๓.๓ ‘การหึงหวงอย่างรุนแรงไร้เหตุผล’ แม้ตัวเองจะต้องตายก็ยอม เช่น ฆ่าตัวตาย หรือฆ่าตัวตายคู่ ตามหนังสือพิมพ์ที่ออกข่าวบ่อยๆ เช่น รักไม่สมหวัง หลายคนเห็นใจที่เขาบูชารัก แต่นั่นคือการเข้าใจผิด มันไม่ใช่ความรัก เพราะความรัก คือความอ่อนโยน มีเหตุผล ไม่กระทำผิด แต่ความหลง กระทำให้เรา “คิดสั้น” และ “หลงผิด” ถูกครอบงำด้วยอำนาจที่แฝงแปลงร่างมาคล้ายกับความรักแท้


เครดิต: Forward Mail 


 
 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยมในเดือนนี้